วันศุกร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐

Crystal Therapy



คริสตัลบำบัด
(Crystal Therapy)

.....คริสตัลบำบัด หรือหินบำบัด หรือผลึกบำบัด หรือ คริลตัลเธราพี หรือ คริสตัลฮีลลิ่ง (Crystal healing) บางทีเรียกว่า การรักษาโรคโดยใช้อัญมณี (Gem therapy) เป็นการใช้ผลึกควอตซ์ (quartz) ผลึกชนิดอื่นๆ หรืออัญมณีต่างๆทั้งแบบรูปทรงธรรมชาติ และผ่านการตบแต่งด้วยฝีมือมนุษย์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการบำบัดรักษาโรค และใช้ร่วมกับการสร้างความสมดุลของจักระ (Chakra) และการบำบัดโดยใช้สี หรือรงคบำบัด (Color therapy) ซึ่งจะกล่าวถึงในอนาคต

....เป็นที่ทราบกันว่า คริสตัลและอัญมณีทั้งหลาย ก็เหมือนกับร่างกายมนุษย์ คือมีพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่ คริสตัลและอัญมณีต่างๆ จะกระจายความสั่นสะเทือนและความถี่ ซึ่งมีศักยภาพมากในการส่งผลกระทบกับทั้งร่างกาย ความคิดจิตใจ และจิตวิญญาณ



....ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีผู้คนที่หลงใหลติดใจกับเสน่ห์ความงามของหิน ผลึก และอัญมณีต่างๆมาโดยตลอด เป็นธรรมดาที่คนเราจะอยากหยิบเอาหินหรือผลึกสวยๆขึ้นมา และพกพาติดตัวไปด้วย ในท้ายที่สุด ก็เป็นที่ทราบกันว่า ผลึกและหินบางชนิดมีศักยภาพ ในการสร้างผลกระทบบางอย่างให้เกิดขึ้นกับร่างกาย เพชรพลอยและหินมีค่าต่างมีคุณสมบัติอันลึกลับอยู่ วัฒนธรรมยุคบุพกาลและวัฒนธรรมยุคที่มีอารยธรรมแล้ว ตลอดจนชนพื้นเมืองต่างๆทั่วโลก ต่างเคยใช้หินและผลึกต่างๆในการรักษาโรค และในพิธีกรรมต่างๆมากมาย

....ในต้นทศวรรษที่ 1980 ผลึกเริ่มเป็นที่สนใจของผู้คนทั่วไปอย่างกว้างขวาง และเริ่มมีการนำผลึกและหินชนิดต่างๆ เข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ผลึกและหินบางชนิด ใช้สวมใส่กับร่างกาย บางชนิดก็นำมาเก็บไว้ในห้องต่างๆภายในบ้าน เพื่อสร้างผลกระทบทางอารมณ์ตามที่ปรารถนา

....สำหรับการรักษาและประโยชน์ในทางอื่นๆนั้นก็สามารถนำเอาความสั่นสะเทือนของพลังงาน และคุณสมบัติต่างๆของผลึกและอัญมณี มาใช้ประโยชน์ได้หลายรูปแบบ เช่นสวมใส่เป็นเครื่องประดับ, พกติดตัวไว้ในกระเป๋า, เก็บไว้ในห้องหรือที่ทำงาน ผลึกและอัญมณีจำทำให้รู้สึกสบายใจ และรู้สึกถึงประโยชน์ของมันที่ส่งออกมา ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความเชื่อที่ว่า มันจะส่งผลดีให้แก่ตัวก็เป็นได้


....ผลึกและอัญมณีต่างๆโดยทั่วไปแล้ว จะถูกนำมาเป็นเครื่องประดับ เช่น กำไล แหวน ต่างหู มงกุฎ เครื่องประดับศีรษะ เข็มขัด เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาใส่ถุงเล็กๆ แล้วเกี่ยวแขวนหรือพกไว้กับตัวก็ได้ โดยมากมักสวมใส่หรือประดับอยู่เหนือเมอริเดียนพลังงานของร่างกาย และตามที่ตั้งของจักระต่างๆ หรือบริเวณใกล้เคียง ด้วยเชื่อว่า ผลึกและอัญมณีเหล่านั้นสามารถกระตุ้นหรือเปิดหรือเพิ่มการไหลเวียนของพลังงานในบริเวณนั้นๆได้ เนื่องเพราะสาเหตุของปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบการทำงานของร่างกาย มักเกิดจากการติดขัดหยุดนิ่งหรือสับสนวุ่นวายของกระแสพลังงานในบริเวณนั้นๆ หรืออาจเกิดจากความผิดปกติทางความคิดหรือสภาวะจิต ทำให้เกิดการปิดกั้นพลังชีวิตที่บริเวณต่างๆที่เกี่ยวข้อง ผลึกจึงถูกนำมาใช้เพื่อจัดระบบการไหลเวียนของพลังงานทั้งภายในและภายนอกร่างกายเสียใหม่ให้เป็นระบบระเบียบมากขึ้น รวมทั้งใช้พลังงานของหินนั้นๆในการชำระ หรือกำจัดสิ่งปิดกั้นที่มีอยู่ออกไปด้วย เมื่อระบบพลังงานของร่างกายและจิตใจได้รับการฟื้นฟูจนกลับคืนสู่สมดุลแล้ว ก็ย่อมจะส่งผลดีต่อสุขภาพกายและจิตใจไปด้วย (เมื่อร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ทำงานประสานกลมกลืนกัน เราจะสามารถกำกับจิตใจให้มีความสงบ สร้างความมีชีวิตชีวา หรือก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในด้านต่างๆขึ้นมาได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของหินที่ใช้)

....นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่า อารมณ์ต่างๆสามารถถูกกระตุ้นขึ้นมาได้ หากว่าไปอยู่ใกล้กับหินผลึกบางชนิด เช่น ควอตซ์สีกุหลาบ (Rose quartz)ที่มีสีอ่อนหวาน ซึ่งเป็นที่นิยมใช้พลังงานในการบำบัดบริเวณหัวใจ เมื่อนำไปไว้ในบริเวณต่างๆของห้อง ก็จะก่อให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกเกี่ยวกับความรัก และการอุปการะ หรือความเมตตาและความอ่อนโยน ในขณะที่หินโรสควอตซ์ที่มีสีชมพูจัด จะส่งเสริมการแสดงออกถึงความรักอย่างคึกคัก




ศิลปะการวางหิน

....ศิลปะการวางหินของโบราณนั้น “หมอ” จะเป็นผู้นำเอาผลึกและอัญมณีไปวางลงที่ส่วนต่างๆของร่างกาย ให้ตรงกับจุดของจักระ เพื่อทำให้การไหลเวียนของพลังงานสมดุล เช่น ใช้หินมาลาไคต์ (Malachite) วางไว้ที่ชายโครง เพื่อช่วยดึงอารมณ์ที่ถูกปิดกั้นไว้ออกมา เพื่อให้จักรหัวใจสามารถเปิดและทำงานได้อย่างปกติ

....ผลึกและอัญมณี ควรได้รับการ “ชำระล้าง” อย่างถูกวิธีเสียก่อนทีจะนำมาใช้ โดยเฉพาะหินที่จะนำมาใช้รักษาโรค หินผลึกเหล่านี้สามารถสะสมเอาความสั่นสะเทือนจากบุคคลที่สัมผัสมันมาก่อน หรือจากสถานที่ๆเคยอยู่เอาไว้ได้ แหล่งพลังงานต่างๆ เช่น เสียง แสง อารมณ์ ความคิด และสภาพแวดล้อมทางกายภาพ สามารถทิ้งพลังงานของมันไว้ในหินผลึกได้ หากว่าผู้ที่เคยเป็นเจ้าของหินนั้นป่วย หรือมีความคิดในทางที่ร้ายมาก ความสั่นสะเทือนจากความคิดและความป่วยไข้เหล่านี้ ก็อาจส่งผ่านมายังคนที่ใช้หินผลึกนั้นๆเป็นคนต่อมาก็ได้ หากไม่มีการล้างเสียก่อน

....การล้างสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ล้างในน้ำไหลโดยการราดน้ำหรือผ่านน้ำจากก๊อก การจุ่มหรือแช่ในน้ำผสมกับเกลือทะเล บรรจุไว้ในเกลือทะเล นำไปผ่านเปลวไฟหรือควัน หรือนำไปฝังดินไว้ระยะหนึ่ง




....การใช้ผลึกส่วนใหญ่มักเป็นการใช้ด้วยตนเอง แต่ก็มี “หมอผลึก” อยู่มากเหมือนกัน และมีหนังสือมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้จำหน่ายตามร้านหนังสือหรือห้องสมุดส่วนใหญ่(ห้องสมุดในต่างประเทศมี แต่ในไทยไม่ค่อยมีหรอก ต้องจับพวกครูมาล้างสมองก่อนถึงจะมี) ผลึกและอัญมณีต่างๆก็มีจำหน่ายทั่วไป ทั้งตามร้านขายปลีกและที่สั่งซื้อทางไปรษณีย์ (แต่อย่าลืมล้างและจำไว้ว่า หินผลึกแท้จากธรรมชาติใช้ได้ผลดีกว่าพวกที่สังเคราะห์ขึ้นในห้องแล็บ)

**Credit: Alternative Healing by Mark Kastner, L.Dc., Dipl.Ac and Hugh Burroughs.

ไม่มีความคิดเห็น: